คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | | | ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย กับการเลือกตั้งครั้งล่าของอเมริกา เพราะได้สร้างเซอร์ไพรซ์หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเทคโนโลยีแล้ว "ซีเอ็นเอ็น" ออกมาประกาศครองความเป็นเจ้าด้วยการใช้ "ฮอโลแกรม" ยิงภาพ 3 มิติรายงานข่าวกันเลยทีเดียว ระหว่างที่กำลังรอลุ้นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาใน ปี 2008 นี้ ซึ่งแม้ว่า "บารัค โอบามา" จะได้ชัยชนะเหนือ "จอห์น แมคเคน" แต่การนับคะแนนก็ยังไม่จบสิ้น คงต้องรอผลอย่างเป็นทางการต่อไป ทว่าสำหรับ "ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" แล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น (CNN) แห่งสหรัฐฯ ที่อ้างว่ามีความพยายามใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าใครๆ ความไม่ธรรมดาปรากฎขึ้น เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ย.เวลาสหรัฐฯ ผู้ประกาศประจำห้องส่งของซีเอ็นเอ็น กำลังทำหน้าที่รายงานข่าวคราวการเลือกตั้งครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ (และของโลก) และเป็นธรรมดาที่จะต้องมีภาพของผู้สื่อข่าวที่ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ในลักษณะถ่ายทอดสดกลับเข้ามา แต่วันนี้ เจสซิกา เยลลิน (Jessica Yellin) รายงานสดจากชิคาโก ผ่าน "ฮอโลแกรม" (Hologram) แถมด้วย วิล.ไอ.แอม (Will.I.Am) แห่งวงแบล็ก อายด์ พีส์ ก็โผล่มาแบบ 3 มิติให้สัมภาษณ์สดๆ ในฐานะผู้สนับสนุนโอบามา นี่คือเทคโนโลยีที่คอหนังหนังไซ-ไฟคุ้นเคยเป็นอย่างดี ประหนึ่งฉากเจ้าหญิงเลอาแห่งสตาร์วอร์ส กำลังสนทนากับลุค สกายวอล์เกอร์ ตัวเอกของเรื่องผ่านฮอโลแกรม แต่ที่เห็นผ่านหน้าจอครั้งนี้คือการรายงานผลการเลือกตั้งแบบสดๆ จริงๆ แล้วซีเอ็นเอ็นทำได้อย่างไร? งานนี้โอลิเวอร์ เบิร์กแมน (Oliver Burkeman) ผู้สื่อข่าวของเดอะการ์เดียนแห่งอังกฤษ ซึ่งเกาะติดการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้เขียนบันทึกลงไดอารีออนไลน์ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังการเตรียมรายงานข่าวเลือกตั้งของซีเอ็นเอ็นก่อนวัน จริง โดยระบุว่า การรายงานข่าวครั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา "แทน ที่จะแบ่งหน้าจอสลับคนละครึ่ง ระหว่างห้องส่งกับผู้ที่ถูกสัมภาษณ์อยู่ภาคสนาม หรือที่อื่นๆ อย่างที่เห็นกันปกติทั่วไป แต่โฆษกประจำตัวของโอบามาจะปรากฎในลักษณะ 3 มิติผ่านฮอโลแกรม อีกทั้งซีเอ็นเอ็นยังมีแผนสัมภาษณ์ผู้แทนของแมคแคนในลักษณะเดียวกันนี้" เบิร์กแมนว่าไว้ก่อนวันยิงเทคโนโลยีจริง เบิร์กแมนบอกว่า ซีเอ็นเอ็นได้วางแผนเตรียมกล้องบันทึกภาพวิดีโอความละเอียดสูง 44 ตัว (HD camera) ประจำไว้ที่ชิคาโกและแอริโซนา และส่งภาพต่างๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ 20 เครื่อง เพื่อประมวลผลให้ได้ภาพผู้ที่ถูกสัมภาษณ์ออกมา 360 องศา ส่งถึงห้องส่งในนิวยอร์ก เพื่อให้ผู้ประกาศในห้องส่งสัมภาษณ์ ในส่วนของรายละเอียดของการสร้างภาพเหมือนผู้สื่อข่าว 3 มิตินั้น กิซโมโด (gizmodo.com) อธิบายว่า ที่ภาคสนามซึ่งต้องส่งภาพผู้สื่อข่าวหรือผู้ถูกสัมภาษณ์เข้ามา ได้ตั้งกล้องวิดีโอความละเอียดสูง 35 ตัว ล้อมวัตถุ (ซึ่งก็คือเจสซิกาและวิล.ไอ.แอม) ในลักษณะล้อมเป็นวงแหวน ทั้งนี้ ภาพที่บันทึกได้จะต้องเป็นจากมุมต่างๆ ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้ได้ภาพร่างกายของบุคคลผู้นั้นทั้งหมด อีกทั้งกล้องที่บันทึกจะต้องเชื่อมต่อกับกล้องในห้องส่งเพื่อซิงค์เทียบมุมและสัดส่วนของภาพให้ถูกต้องตรงกัน จากนั้น จะส่งภาพทั้งหมดถึงคอมพิวเตอร์ 20 ตัว เพื่อใช้ประมวลผลภาพที่บันทึกออกมาให้ได้ 3 มิติ ส่วนนักข่าวภาคสนาม จะได้เห็นภาพของตัวเองผ่าน จอขนาด 37 นิ้ว หลังจากประมวลผลแล้วกลับมา เพื่อให้ได้เห็นภาพของตัวเอง จะได้ตรวจสอบความผิดพลาด อย่างพวกเสื้อผ้าหน้าผม ส่วนที่ห้องส่งของซีเอ็นเอ็นนั้น ก็ใช้กล้องเพียงแค่ 2 ตัวเพื่อจะบันทึกภาพผู้ประกาศจากห้องส่งออกไปตามปกติ แม้ว่าในการรายงานครั้งนี้ จะเหมือนว่าผู้ประกาศในห้องส่งได้คุยกับนักข่าวฮอโลแกรม แบบตัวต่อตัว เหมือนในสตาร์วอร์ ทว่าแท้จริงแล้ว ผู้ประกาศไม่ได้มองเห็นทั้งเจสซิกา หรือ วิล.ไอ.แอม เขาก็ยังคงคุยผ่านทางเสียง เหมือนการโฟนอินหรือการสลับหน้าจอปกติ ส่วนภาพ 3 มิติจากภาคสนามนั้น ใช้คอมพิวเตอร์จัดการให้อยู๋ในเฟรมเดียวกันกับผู้ประกาศในห้องส่งก่อนนำออกอากาศ เมื่อคอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยรวมภาพจากห้องส่งและจากฮอโลแกรมเข้าด้วยกัน ก็จะยิงสัญญาณสู่จอทีวีของเรา แต่สิ่งที่ต้องกังวลอีกขั้นคือสัญญาณฮอโลแกรมที่ได้รับมาจะดีเลย์ ซึ่งต้องอาศัยดาวเทียมเพื่อหน่วงสัญญาณก่อนกระจายเสียงสู่โทรทัศน์ เพื่อผู้ชมจะได้ไม่ทันสังเกตว่ามีการดีเลย์ ระหว่างที่ผู้ประกาศถาม นักข่าวฮอโลแกรมอาจตอบมาช้ากว่า เพราะขั้นตอนของการส่งสัญญาณ เล่าไปเล่ามาดูเหมือนว่า การ รายงานสดผ่านฮอโลแกรมครั้งแรกแห่งวงการโทรทัศน์ตามที่ซีเอ็นเอ็นอ้างครั้ง นี้ ได้ผ่านการตัดและต่อ ก่อนถึงสายตาเราๆ ท่านๆ ไม่ได้สมบูรณ์เหมือนในภาพยนตร์สตาร์วอร์ แต่อย่างใด จึงทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่อาจจะไม่เรียกว่าฮอโลแกรม แต่เป็นเรื่องของเทคนิคการตัดต่อมากกว่า.
ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th
| | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น